เคล็ด(ไม่)ลับจัดบูทงานอาหารให้ขายดี!

จัดบูทงานอาหารยังไงให้ขายดี

หากคุณคือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร และกำลังมีแผนที่จะไปออกบูทในเทศกาลมหกรรมอาหาร ตลาดนัด หรือป็อปอัปมาร์เก็ตตามสถานที่ต่าง ๆ หนึ่งความกังวลที่เชื่อว่าทุกคนคงมีไม่ต่างกันก็คือ

“ท่ามกลางบูทขายอาหารที่มีอยู่มากมายนับร้อย จะทำอย่างไรให้บูทงานอาหารของเราโดดเด่น?”

ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาอาสาเป็นผู้ช่วย แนะนำไอเดียในการจัดบูทงานอาหารให้ยั่วน้ำลาย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และที่สำคัญคือทำตามได้ไม่ยาก ติดตามได้เลย

ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ทำเลถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่พอจะใช้ประเมินได้เลยว่าในการออกบูทงานอาหารครั้งนี้จะได้กำไรมากน้อยเท่าไร เนื่องจากต่อให้อาหารของเราจะรสชาติอร่อยล้ำแค่ไหน แต่ถ้าวางขายอยู่ในทำเลที่ไม่ดี โอกาสที่คนจะพบเห็นก็น้อยตามไปด้วย ดังนั้น คำแนะนำคือเมื่อทราบข่าวว่ามีงานออกบูทที่ไหนที่คิดว่าประเภทของงานเหมาะที่จะนำอาหารของตัวเองไปขาย ให้รีบติดต่อผู้จัดเพื่อจองบูททันที เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วยิ่งจองเร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสในการเลือกทำเลมากเท่านั้น

แนวทางการจัดบูทอาหาร

เมื่อมั่นใจแล้วว่าได้ทำเลที่ตั้งบูทในจุดที่รับได้ ขั้นต่อไปก็คือการจัดตกแต่งบูท โดยควรที่จะตั้งอยู่บนหลักเกณฑ์สำคัญ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

  1. โดดเด่นสะดุดตา: ท่ามกลางบูทงานอาหารที่มีอยู่มากมาย การตกแต่งบูทจึงควรที่โดดเด่นสะดุดตา เพื่อไม่ให้โดนบูทข้างเคียงกลบไป ดังนั้น ควรจะมีการจัดสีสันและแสงไฟให้สว่างไสว โดยอาจเลือกใช้สีสันที่ตัดกันหรือสีสันที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของอาหาร เช่น บูทอาหารทะเลอาจใช้สีฟ้าและขาว บูทอาหารไทยอาจใช้สีแดงและเหลือง นอกจากนั้นก็ควรมีป้ายบอกชื่อร้านที่ชัดเจน รวมถึงจัดแสดงอาหารที่จำหน่ายในตำแหน่งที่เด่นชัด สังเกตได้ง่าย
  2. บ่งบอกตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจน: พฤติกรรมของผู้ที่เดินเที่ยวงานออกบูทงานอาหาร โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการตัดสินใจว่าจะลองชิมแต่ละร้านเพียงไม่กี่วินาที ดังนั้น การตกแต่งบูทที่ดีจึงควรบ่งบอกตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจน เช่น การใช้ CI (Corporate Identity) ของแบรนด์ หรือการใช้มู้ดแอนด์โทนที่ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเข้าใจได้ในพริบตาเดียวว่าบูทนี้คือแบรนด์อะไร ขายอาหารประเภทไหน เอกลักษณ์เด่นเป็นอย่างไร
  3. ไม่รบกวนผู้อื่น: ข้อสุดท้ายคือ ถึงแม้จะอยากให้บูทงานอาหารของเราโดดเด่นแค่ไหน แต่ก็ห้ามจัดบูทจนไปรบกวนผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นบูทข้างเคียง หรือคนที่มาเดินในงานโดยเด็ดขาด เพราะจะสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้กับแบรนด์ ทำให้คนอยากเดินหนีไปให้ไกล แทนที่จะเดินเข้ามาลองชิมอาหาร

กลิ่นหอมเย้ายวน

เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยต้องผ่านประสบการณ์เดินเล่นในตลาดขายอาหาร แล้วผ่านร้านหนึ่งที่แวบแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่สุดท้ายก็ต้องหันขวับมามองเพราะทนกลิ่นอันแสนเย้ายวนไม่ไหว ก่อนที่จะจบลงด้วยการลองซื้อมาชิมสักชิ้นหนึ่ง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “กลิ่น” คืออาวุธสำคัญอย่างยิ่งในการออกบูทงานอาหาร ดังนั้น เพื่อให้กลิ่นเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ก็ควรที่จะมีการปรุงสดที่หน้าร้านในบางส่วน เพื่อให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปเตะจมูกผู้ที่มาร่วมงาน

หรืออีกวิธีหนึ่ง หากอาหารที่ขายไม่ได้มีกลิ่นที่โดดเด่น ก็อาจจะเพิ่มเมนูที่มีกลิ่นหอมเข้าไปด้วย ตัวอย่างเช่น ร้านขายขนมปังสังขยา สามารถเพิ่มขนมปังปิ้งเนยสดเข้าไปในเมนู เนื่องจากเป็นเมนูที่มีกลิ่นโดดเด่น โดยเมื่อมีคนแวะมาที่ร้านเพราะโดนกลิ่นขนมปังปิ้งเนยสดชักจูง ก็มีโอกาสที่เขาจะลองซื้อขนมปังสังขยาซึ่งเป็นเมนูหลักติดไม้ติดมือไปด้วย

กลยุทธ์ชิมฟรี…เสียน้อย ได้กลับคืนมาก

ในการจัดบูทงานอาหาร ควรจะมีสต็อกสินค้าส่วนหนึ่งที่กันไว้สำหรับให้ลูกค้าได้ทดลองชิมฟรี ๆ ด้วยมีผู้ประกอบการหลายคนที่มองข้ามเรื่องนี้ เพราะคิดว่าจะไม่คุ้ม เนื่องจากคนส่วนใหญ่ชิมเสร็จก็เดินจากไปโดยไม่ซื้ออะไร แต่หากนำต้นทุนมาคิดคำนวณดี ๆ ก็จะพบว่า ต่อให้จะมีลูกค้าที่ชิมแล้วไม่ซื้ออะไร 20 คน แต่ถ้าคนที่ 21 มาชิมแล้วตัดสินใจซื้อ ก็ยังถือว่าคุ้มค่า ได้กำไร ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกข้อที่ควรให้ความสำคัญ

เทคนิคการจัดบูทงานอาหาร

บูทอาหารที่ดี ต้องอำนวยความสะดวกได้มากที่สุด

ปิดท้ายเทคนิคการจัดบูทงานอาหารให้ขายดี นั่นคือ “ความสะดวก” โดยบูทงานอาหารในยุคนี้ต้องอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการวาง QR Code สำหรับสแกนจ่ายเงินไว้ในตำแหน่งที่เห็นชัดเจน รวมถึงหากมีโปรโมชัน ก็ควรจะมีป้ายบอกไว้อย่างเด่นชัดด้วยเช่นกัน

จบครบเรื่องอุปกรณ์ออกบูทงานอาหาร ต้องที่ หัวหิน อีเว้น ซัพพ ลาย

เมื่อรู้แล้วว่าต้องจัดบูทงานอาหารอย่างไรให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง มีโอกาสขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ก็ถึงเวลาเช่าอุปกรณ์สำหรับการออกงานที่จะมาถึง ขอแนะนำ บริษัท หัวหิน อีเว้น ซัพพลาย จำกัด บริษัทให้เช่าบูท รวมถึงอุปกรณ์ออกงานอิเวนต์ต่าง ๆ ที่เดียวจบครบทุกสิ่งที่ลูกค้าต้องการแบบ ONE STOP SERVICE สามารถเลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 081-745-4144 (คุณแซงค์), 064-992-3645 (คุณพลอยใส),064-987-9594 (คุณเติ้ล) หรือ 081-745-4142 (คุณสายน้ำ) และ LINE Official